
ตัวเล่นหลัก
รีวิว Deadpool & Wolverine (2024) เดดพูล & วูล์ฟเวอรีน
Deadpool & Wolverine” (2024) เป็นภาพยนตร์ที่ได้รับการคาดหวังอย่างสูงในจักรวาล Marvel Cinematic Universe (MCU) และถือเป็นจุดเปลี่ยนครั้งสำคัญสำหรับแฟนๆ ที่รอคอยการร่วมมือระหว่างตัวละครสุดกวนอย่าง Deadpool กับ Wolverine ฮีโร่ที่มีความเป็นตำนาน ภาพยนตร์นี้ไม่เพียงแต่เปิดโอกาสให้แฟนๆ ได้เห็นการปะทะกันทางอารมณ์และการแสดง แต่ยังสำรวจประเด็นที่ลึกซึ้งยิ่งขึ้นในมิตรภาพ การไถ่บาป และเส้นทางแห่งการแก้ไขอดีตของตัวละครทั้งสอง
เรื่องราว
เรื่องราวใน “Deadpool & Wolverine” เปิดฉากด้วยการที่ Deadpool (Ryan Reynolds) ใช้พลังของการเดินทางข้ามมิติเพื่อแก้ไขเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในอดีต ซึ่งนำเขาไปสู่โลกที่ Logan หรือ Wolverine (Hugh Jackman) ยังคงมีชีวิตอยู่ แม้ว่าพล็อตจะเต็มไปด้วยอารมณ์ขันและการล้อเลียนที่เป็นเอกลักษณ์ของ Deadpool แต่ภาพยนตร์ยังเจาะลึกถึงผลกระทบของอดีตต่อชีวิตของ Logan ซึ่งเป็นธีมที่สอดคล้องกับเรื่องราวก่อนหน้าในภาพยนตร์ “Logan” (2017)
ภาพยนตร์ดำเนินไปในลักษณะการเดินทางข้ามมิติและเวลา ซึ่งทั้งคู่ต้องต่อสู้กับศัตรูหลากหลาย ตั้งแต่เหล่าร้ายในจักรวาล X-Men จนถึงตัวละครใหม่ที่เต็มไปด้วยความอันตราย การผจญภัยครั้งนี้ยังเผยให้เห็นการเปลี่ยนแปลงในจุดยืนทางศีลธรรมของทั้งสองตัวละคร

ตัวละครและการแสดง
Ryan Reynolds กลับมารับบท Deadpool ด้วยความชำนาญ โดยเขายังคงสไตล์การพูดจาถากถางและการล้อเลียนแบบ “breaking the fourth wall” ในขณะที่ Hugh Jackman นำเสนอ Wolverine ที่มีมิติทางอารมณ์มากขึ้น โดยเฉพาะการเผชิญหน้ากับอดีตและการค้นหาความหมายใหม่ในชีวิตหลังจากการเสียสละของเขาใน “Logan” การแสดงของทั้งคู่มีเคมีที่ลงตัวและสร้างความสนุกสนานในแบบที่ภาพยนตร์ MCU มักขาดหาย
Emma Corrin ผู้รับบทเป็นตัวร้ายหลัก ได้รับคำชมเรื่องการแสดงที่เข้มข้นและน่ากลัว ตัวละครของเธอไม่ใช่เพียงคู่ปรับที่ใช้พละกำลัง แต่ยังมีความซับซ้อนทางจิตวิทยาที่เพิ่มความเข้มข้นให้กับเนื้อเรื่อง
การกำกับและบทภาพยนตร์
ผู้กำกับ Shawn Levy สร้างสมดุลระหว่างฉากแอ็กชันสุดอลังการกับการเล่าเรื่องที่ลึกซึ้ง เขาใช้ประสบการณ์จากภาพยนตร์อย่าง “Free Guy” และ “Stranger Things” ในการจัดการความซับซ้อนของตัวละครและโทนเรื่อง โดยไม่ทำให้การเดินเรื่องสับสน
บทภาพยนตร์ที่เขียนโดย Levy, Reynolds และทีมงาน เพิ่มความชาญฉลาดด้วยการผสมผสานมุกตลกและฉากแอ็กชัน พร้อมทั้งเนื้อหาที่ให้ข้อคิดเกี่ยวกับการไถ่บาปและการให้อภัยตนเอง

จุดเด่น
-
ฉากแอ็กชันและวิชวลเอฟเฟกต์
ฉากการต่อสู้ในภาพยนตร์ได้รับคำชมเรื่องความคิดสร้างสรรค์และการถ่ายทอดอารมณ์ โดยเฉพาะการใช้สไตล์การต่อสู้ที่แตกต่างของ Deadpool และ Wolverine ซึ่งสะท้อนถึงบุคลิกของพวกเขา เอฟเฟกต์ CGI ในฉากข้ามมิติได้รับการยกย่องว่าทำได้อย่างน่าทึ่ง -
อารมณ์ขันและการล้อเลียน
Deadpool ยังคงเป็นตัวละครที่ล้อเลียนตัวเองและจักรวาล Marvel ได้อย่างมีเสน่ห์ ภาพยนตร์เต็มไปด้วยมุกล้อเลียนเกี่ยวกับ MCU, X-Men, และกระแสภาพยนตร์ซูเปอร์ฮีโร่ในปัจจุบัน -
การพัฒนาตัวละคร
ความสัมพันธ์ระหว่าง Deadpool และ Wolverine เป็นจุดเด่นของภาพยนตร์ โดยพวกเขาทั้งคู่พยายามเข้าใจและช่วยเหลือกันในการเดินทางเพื่อแก้ไขอดีต ความผูกพันที่พัฒนาเป็นมิตรภาพนี้ช่วยเพิ่มมิติให้กับเรื่องราว
ข้อเสีย
แม้ว่าภาพยนตร์จะประสบความสำเร็จในหลายด้าน แต่ยังมีข้อเสียเล็กน้อย เช่น การใช้ตัวละครรองและตัวร้ายที่บางครั้งดูไม่ลึกซึ้งเท่าที่ควร นอกจากนี้ โครงเรื่องข้ามมิติอาจทำให้ผู้ชมที่ไม่คุ้นเคยกับ MCU หรือ X-Men สับสนได้
สรุป
“Deadpool & Wolverine” เป็นภาพยนตร์ที่มอบความบันเทิงที่ครบถ้วนทั้งอารมณ์ขัน ความดราม่า และฉากแอ็กชันสุดมันส์ เป็นการรวมพลังที่ลงตัวระหว่าง Deadpool และ Wolverine ที่แฟนๆ รอคอยอย่างคุ้มค่า และยังเป็นอีกก้าวสำคัญของ MCU ในการสำรวจมิติใหม่ของเรื่องราว
รีวิวจาก AThailand คะแนนรวม: 9/10
คะแนนจาก IMDb : 7.7/10
รีวิวจาก Rotten Tomatoes 94%
เหมาะสำหรับแฟนๆ Marvel และผู้ชมที่ชื่นชอบการผสมผสานระหว่างความตลกและความลึกซึ้งในภาพยนตร์ซูเปอร์ฮีโร่